วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

คาถาอาการวัตตาสูตร คำแปลและอานุภาพของคาถา

บทสวดมนต์ พระคาถาอาการวัตตาสูตร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ตรัสถึงบทพระอาการวัตตาสูตรว่า อานิสงส์ดังนี้ จะพ้นจากภัย ๓๐ ประการคือภัยอันเกิดแต่ งูพิษ สุนัขป่า สุนัขบ้าน โคบ้าน และโคป่า กระบือบ้านและกระบือเถื่อน พยัคฆะ หมู เสือ สิงห์ และภัยอันเกิดแต่คชสารอัสดรพาชี จตุรงคชาติของพระราชา ผู้เป็นจอมของ นรชน ภัยอันเกิดแต่น้ำและเพลิงเกิดแต่มนุษย์และอมอุษย์ภูตผีปิศาจเกิดแต่อาชญาของแผ่นดินเกิดแต่ ยักษ์กุมภัณฑ์ และคนธรรพ์อารักขเทวตา เกิดแต่มาร ๕ ประการที่ผลาญให้วิการต่าง ๆ เกิดแต่วิชาธร ผู้ทรงคุณวิทยากรและภัยที่จะเกิดแต่มเหศวรเทวราช ผู้เป็นใหญ่ในเทวโลกรวมเป็นภัย ๓๐ ประการ อันตรธานพินาศไป ทั้งโรคภัยที่เสียดแทงอวัยวะน้อยใหญ่ ก็จะวินาศเสื่อมคลายหายไปด้วยอำนาจ เคารพนับถือในพระอาการวัตตาสูตรนี้แล ดูกรสารีบุตรบุคคลผู้นั้นเมื่อยังท่องเที่ยวอยู่ในสังสรวัฏฏ์ จะ เป็นผู้มีปัญญาละเอียดสุขุม มีชนมายุยืนยงคงทนนาน จนเท่าถึงอายุไขยเป็นกำหนดจึงตายจะตายด้วยอุ ปัททวันอันตราย นั้นหามิได้ ครั้นเมื่อสิ้นชีพแล้วจะได้ไปอุบัติขึ้นบนสวรรค์ร่างกายก็จะมีฉวีวรรณอัน ผ่องใจดุจทองคำธรรมชาติ จักษุประสาทก็จะรุ่งเรืองงามมองดูได้ไกลมิได้วิปริต จะได้เป็นพระอินทร์ ๓๖ กัลปเป็นประมาณ จะได้สมบัติพระยาจักรพรรดิราชาธิราช ๑๖ กัลป คับครั่งไปด้วยรัตนะ ๗ ประการก็ด้วยอานิสงส์ที่ได้สวดสาธยายอยู่เนืองนิตย์ “ทุคฺคตึ โส น คจฺฉติ” แม้แต่สดับฟังท่านอื่น เทศนา ด้วยจิตประสันนาการเลื่อมใสก็ไม่ไปสู่ทุคติตลอดยืดยาวนานถึง ๙๐ แสนกัลป์


คาถาอาการวัตตาสูตร
คาถาอาการวัตตาสูตร 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( 3 จบ ) พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

เอวัมเม สุตัง เอกัง สะมะยัง ภะคะวา ราชะคะเห วิหะระติ คิชฌะกูเฏ ปัพพะเต เตนะ โข ปะนะ สะมะเยนะ สัพพะสัตตานัง พุทธะคุโณ ธัมมะคุโณ สังฆะคุโณ อายัสมา อานันโท อะนุรุทโธ สารีปุตโต โมคคัลลาโน มะหิทธิโก มะหานุภาเวนะ สัตตานัง เอตะทะโวจะ

1.อิติปิโส ภะคาวา อะระหัง
อิติปิโส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ
อิติปิโส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุคะโต
อิติปิโส ภะคะวา โลกะวิทู
อิติปิโส ภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
อิติปิโส ภะคะวา พุทโธ
อิติปิโส ภะคะวา ภะคะวาติ
พุทธะคุณะวัคโค ปะฐะโม ฯ

2.อิติปิโส ภะคะวา อภินิหาระ ปาริมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อุฬารัชฌาสะยะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะณิธานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา มะหากะรุณา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะโยคะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ยุติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ชุติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา คัพภะโอกกันติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา คัพภะฐิติ ปาระมิสัมปันโน
อะภินิหาระวัคโค ทุติโยฯ

3.อิติปิโส ภะคะวา คัพภะวุฏฐานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา คัพภะมะละวิระหิตะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อุตตะมะชาติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา คะติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะภิรูปะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุวะวัณณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา มะหาสิริ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อาโรหะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะริณามะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุนิฏฐะ ปาระมิสัมปันโน
คัพภะวุฏฐานะวัคโค ตะติโยฯ

4.อิติปิโส ภะคะวา อะภิสัมโพธิ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สีละขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สะมาธิขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปัญญาขันธะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
อะภิสัมโพธิวัคโค จะตุตโถ ฯ

5.อิติปิโส ภะคะวา มะหาปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปุถุปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา หาสะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ชะวะนะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ติกขะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา นิพเพธิกะปัญยา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปัญจะจักขุ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อัฏฐาระสะพุทธะกะระ ปาระมิสัมปันโน
มะหาปัญญาวัคโค ปัญจะโม ฯ

6.อิติปิโส ภะคะวา ทานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สีละ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา เนกขัมมะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วิริยะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ขันติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สัจจะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะธิษฐานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา เมตตา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อุเปกขา ปาระมิสัมปันโน
ปาระมิวัคโค ฉัฏโฐ ฯ

7.อิติปิโส ภะคะวา ทะสะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ทะสะอุปะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ทะสะปะระมัตถะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สะมะติงสะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ตังตังชานะหะนัง ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะภิญญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สะติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สะมาธิ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วิมุตติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วิมุตติญาณะ ปาระมิสัมปันโน
ทะสะปาระมิวัคโค สัตตะโมฯ

8.อิติปิโส ภะคะวา วิชชาจะระณะวิปัสสะนาวิชชา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา มะโนมยิทธิวิชชา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อิทธิวิชชา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ทิพพะโสตะวิชชา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะระจิตตะวิชชา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปุพเพนิวาสานุสสะติวิชชา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ทิพพะจักขุวิชชา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วิชชาจารณะธัมมะวิชชา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะนุปุพพะวิหาระ ปาระมิสัมปันโน
วิชชาวัคโค อัฏฐะโม ฯ

9.อิติปิโส ภะคะวา ปะริญญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปาหานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สัจฉิกิริยา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ภาวะนา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะริญญา ปะหานะ สัจฉิกิริยา ภาวนะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา จะตุธัมมะสัจจะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะฏิสัมภิทาญานะ ปาระมิสัมปันโน
ปะริญญาวัคโค นะวะโม ฯ

10.อิติปิโส ภะคะวา โพธิปักขิยะธัมมะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สะติปัฏฐานะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สัมมัปปะธานะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อิทธิปาทะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อินทริยะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พะละปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โพชฌังคะปัญญา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อัฏฐังคิกะมัคคะธัมมะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา มะหาปุริสะกิริยา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะนาวะระณะวิโมกขะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัตตะผะละวิมุตติ ปาระมิสัมปันโน
โพธิปักขิยะวัคโค ทะสะโมฯ

11.อิติปิโส ภะคะวา ทะสะพะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ฐานาฐานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สัพพัตถะคามินีปะฏิปะทาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา นานาธาตุญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สัตตานัง นานาธิมุตติกะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะโรปะริยัตติ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา นิโรธะวุฏฐานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ฌานาทิสังกิเลสาทิญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา จุตูปะปาตะญานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อาสะวักขะยะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
ทะสะพะละญาณะวัคโค เอกาทะสะโมฯ

12.อิติปิโส ภะคะวา โกฏิสะหัสสานัง ปะกะติสะทัสสานัง หัตถีนัง พะละธะระ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปุริสะโกฏิทะสะสะหัสสานัง พะละธะระ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปัญจะจักขุญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ยะมะกะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สีละคุณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา คุณะปาระมี สะมาปัตติ ปาระมิสัมปันโน
กายะพะละวัคโค ทวาทะสะโมฯ

13.อิติปิโส ภะคะวา ถามะพะละ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ถามะพะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พะละ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปุริสะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะตุละยะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อุสสาหะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา คะเวสิญาณะ ปาระมิสัมปันโน
ถามะพะละวัคโค เตระสะโมฯ

14.อิติปิโส ภะคะวา จะริยา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา จะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โลกัตถะจะริยา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โลกัตถะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ญาตัตถะจะริยา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ญาตัตถะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พุทธะจะริยา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พุทธะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ติวิธะจะริยา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปาระมิ อุปะปาระมิ ปะระมัตถะ ปาระมิสัมปันโน
จริยาวัคโค จะตุทะสะโม ฯ

15.อิติปิโส ภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุ อะนิจจะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุ ทุกขะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุ อะนัตตะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อายะตะเนสุ ติลักขะณะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อัฏฐาระสะธาตูสุ ติลักขะณะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วิปะรืณามะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน
ลักขะณะวัคโค ปัญจะทะสะโม ฯ

16.อิติปิโส ภะคะวา คะตัฏฐานะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา คะตัฏฐานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วุสิตะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วุสิตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สิกขา ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สิกขาญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สังวะระ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สังวะระญาณะ ปาระมิสัมปันโน
คะตัฏฐานะวัคโค โสฬะสะโมฯ

17.อิติปิโส ภะคะวา พุทธะปะเวณิ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พุทธะปะเวณิญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ยะมะกะปาฏิหาริยะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ยะมะกะปาฏิหาริยะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา จะตุพรหมะวิหาระญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา จะตุพรหมะวิหาระญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะนาวะระ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะนาวะระญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะริยันตะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะริยันตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สัพพัญญุตะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สัพพัญญุตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา จะตุวีสะติโกฏิสะตะวะชิระ ปาระมิสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา จะตุวีสะติโกฏิสะตะวะชิระญาณะ ปาระมิสัมปันโน
ปะเวณิวัคโค สัตตะระสะโม ฯ

จบพระอาการวัตตาสูตรแต่เท่านี้

************************************************

หลวงพ่อใหญ่(หลวงปู่สังวาลย์)เล่าให้ฟัง วันพระแรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีมะแม บทอาการวัตตาสูตรนี่นะ เทวดาจะหมดอายุแล้วจะต้องจุติ เสียใจก็เที่ยวถามหมู่เทพเทวดาทั้งหลาย เทวดาผู้ใหญ่บอกให้เอาอาการวัตตาสูตรมาสวด สามารถอายุยืนได้ เราอยากจะช่วยรักษาบทสวดนี้เอาไว้ ไม่ให้สูญหาย พิมพ์ตัวโตๆนะ จะได้สวดกัน ก่อนนี้เราอยู่ในป่าช้า แรมค่ำหนึ่งหรือสองค่ำ เดือนยังไม่ทันพ้นยอดไม้ เรากำลังนั่งสมาธิอยู่ ฝันว่ามีคนมาสวดอาการวัตตาสูตรให้กับเรา บอกจะป้องกันไว้ให้ ป่าช้าก็สะท้านหวั่นไหว เหมือนพายุพัดอึกทึกเหมือนวัวควายมันกำลังวิ่งมา หมาที่อยู่ที่นั่นมันก็เห่าแบบกลัวเลยนะ แต่เราก็ไม่หวั่นไหวเลย นั่งเฉย พอรุ่งเช้าเราไปดูก็เห็นกิ่งยางกับต้นไม้ในป่าช้าหักจริงๆ พออีก 2 วัน ก็ฝันว่าให้เราท่องมนต์บทนี้ ทั้งๆ ที่เราสวดไม่ได้ พอรุ่งขึ้นในบิณฑบาตก็มีคนมาใส่บาตร เอาบทสวดนี้มาให้กับเรา เราก็เลยสวด สวดจนขึ้นใจ แบบท่องปาติโมกข์ พอได้กรรมฐาน เลยไม่ได้สวดเลย ท่องบทนี้ไปที่ไหนไม่อดอยากนะ ใครท่องแล้วไปไหนจะไม่อดอยาก จะไม่ตายโหง หมาบ้าควายบ้าจะไม่ทำลายได้ มีอานุภาพดี